พื้นฐานสำคํญของการเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพดีคือ ทำความสะอาดให้ลูกห่างไกลจากเชื้อโรค นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงตั้งแต่ยังเล็ก
ลูกจะอยู่นิ่งๆ ให้แม่อาบน้ำสระผมได้ดีถ้ามีของเล่นลอยน้ำให้ลูกเล่น แล้วเริ่มสระผมลูกโดยวักน้ำรดผม เทแชมพูใส่มือแม่ นวดหัวลูกด้วยปลายนิ้ว ไม่เกา เพราะจะทำให้เกิดแผล ล้างออก แล้วใช้สบู่ถูตัว ล้างให้สะอาดแล้วเช็ดตัวให้แห้ง ควรอาบน้ำให้ลูกอย่างอ่อนโยน ลูกจะรู้สึกอบอุ่น เกิดสายสัมพันธ์แห่งรัก ทำให้ลูกรู้จักที่จะรักพ่อแม่ และเผื่อแผ่ความรักไปสู่คนอื่นได้ในที่สุด
นอนอย่างมีคุณภาพ ลูกรักเติบโต
จัดห้องนอนให้เหมาะสม เก็บของเล่นออกจากห้องนอน งดการเล่นที่โลดโผน ปูที่นอนให้ตึง ไม่มีส่วนของผ้าห่ม หมอน หรือของเล่นใกล้หน้า ซึ่งอาจขัดขวางการไหลเวียนของอากาศ จัดท่านอนที่เหมาะสมและปลอดภัย คือ ให้ลูกนอนตะแคง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พ่อแม่อยู่กับลูกก่อนนอนเพื่อเล่านิทานหรือร้องเพลงกล่อมลูกนอน เพื่อให้ลูกรักนอนหลับฝันดีตลอดคืน
ออกกำลังกาย เสริมลูกแข็งแรง
เปิดโอกาสให้ลูกวัยเบบี๋ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นจ๊ะเอ๋ จับมือลูกแกว่งเบาๆ เมื่อเดินได้ให้จูงไปเดินเล่น ลูกวัยหัดเดินให้ออกกำลังโดยวิ่งไล่จับ เต้นรำ ทำท่าประกอบเสียงเพลง ส่วนเด็กที่โตแล้วให้ฝึกทักษะการทรงตัว เพื่อให้กล้ามเนื้อพัฒนา โดยหาเครื่องเล่นที่ลูกขึ้นไปขี่ ผลัก ดึง ทรงตัว หรือปีนป่ายได้ปลอดภัย ถ้าอยากให้ลูกออกกำลังกายอย่างอบอุ่น มั่นใจ ควรอยู่ร่วมกิจกรรมกับลูกด้วย
สุขภาพดีด้วยคุณค่าอาหาร
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสร้างร่างกายและสมองให้เติบโตอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนมแม่ ซึ่งเป็นอาหารที่ลูกควรได้รับตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน เมื่อถึงวัยหย่านมแม่ ควรพิจารณานมผงที่มีคุณค่าสารอาหารต่างๆ ที่จะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน เมื่อโตขึ้นควรให้ลูกได้รับอาหารตามวัยหลากหลายครบ 5 หมู่ ทั้งคาร์โบไฮเดรตจากแป้ง โปรตีนจากนมและเนื้อสัตว์ ไขมันจากน้ำมันพืชต่างๆ รวมทั้งผักสดและผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อให้ร่างกายและสมองของลูกนำคุณค่าสารอาหารที่ได้รับ ไปใช้ในการเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : tips to Healthy baby ; Nestle Nutrition
